อาการต่อไปนี้บ่งบอกว่าคุณควรเปลี่ยนแอร์ได้แล้ว!!

อาการต่อไปนี้บ่งบอกว่าคุณควรเปลี่ยนแอร์ได้แล้ว!!

อาการต่อไปนี้บ่งบอกว่าคุณควรเปลี่ยนแอร์ได้แล้ว!!

 

           หลายคนใช้แอร์มานานมากๆ เป็นสิบปี จนแอร์เริ่มเก่า บางคนใช้ไม่ถึงสิบปี แต่ใช้งานหนัก หรือบางครั้งแอร์เริ่มมีสัญญาณบอกว่า "ไม่ไหวแล้ว" แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแอร์ของเราเริ่มเก่าและทำงานไม่ไหวแล้ว วันนี้เรามาดูกันว่า แอร์ของคุณเข้าข่ายที่ควรจะเปลี่ยนจากแอร์เก่าเป็นแอร์ใหม่ได้แล้วหรือยัง ตามมาเช็คกันเป็นข้อๆ ได้เลย!

แอร์ไม่เย็น

         1.แอร์ไม่เย็น ข้อนี้สังเกตกันง่ายๆ เลยว่าพอเปิดแอร์สักพักแล้ว แอร์เย็นเหมือนก่อนหรือไม่ แม้ว่าจะให้ช่างมาล้างแอร์ก็แล้ว หรือน้ำยาแอร์รั่ว ให้ช่างมาเติมก็แล้ว แต่ก็ยังไม่เย็นอีก เป็นไปได้ว่าแอร์เริ่มเก่า มีชิ้นส่วนผุพัง หรือหมดกำลังซะแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนเป็นแอร์ใหม่ เพราะซ่อมไปก็มีโอกาสเสียอีก

 

ใช้แอร์งานนานเกิน 10 ปี

          2.ใช้แอร์งานนานเกิน 10 ปี แอร์เก่าที่ใช้มานานๆ จะเริ่มมีการเสื่อมสภาพลง ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และยังทำให้กินไฟเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย การใช้งานถึง 10 ปีก็ถือว่าคุ้มแสนคุ้มแล้ว ฉะนั้นเปลี่ยนเป็นแอร์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่าและยังได้เทคโนโลยีฟังก์ชั่นใหม่ๆ มาใช้ในห้องของคุณได้อีกด้วย

 

ซ่อมแอร์บ่อย

           3.ซ่อมแอร์บ่อย โดยปกติแล้วแอร์จะไม่ค่อยมีปัญหาหรือเสียได้ง่ายๆ แต่เมื่อไหร่ที่แอร์เริ่มต้องซ่อมบ่อยขึ้นๆ เป็นการบ่งบอกว่ามันป่วยหนักแล้ว ยิ่งบางทีการซ่อมแอร์หนึ่งครั้งก็เกือบจะซื้อแอร์ใหม่ได้เลย แบบนี้ละก็เปลี่ยนแอร์ใหม่ดีกว่ามาซ่อมแล้วซ่อมอีกและไม่รู้ว่าจะหายหรือเปล่า ดูที่ความคุ้มเป็นหลักเลย เสียค่าแอร์ใหม่ ดีกว่าเสียค่าซ่อมเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าจะต้องซ่อมอีกกี่ครั้ง

 

แอร์กินไฟค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

          4.แอร์กินไฟ ลองสังเกตดูว่าช่วงที่เราเปิดแอร์ ในฤดูทั่วไป อากาศข้างนอกไม่ร้อนจัด สบายๆ แต่แล้วค่าไฟยังพุ่งขึ้นผิดปกติ ก็แปลว่าแอร์ของคุณเริ่มกินไฟซะแล้ว เพราะแอร์มีอายุมาก การทำงานหนักมานาน ทำให้ใช้กำลังไฟมาก ถ้าไม่อยากให้แอร์กินค่าไฟมากๆ ต้องเปลี่ยนแอร์ใหม่เพื่อที่จะให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เมื่อแอร์แข็งแรง ก็ทำงานได้ดี ไม่กินไฟ แต่เวลาจะเปลี่ยน แนะนำว่าให้คุณเลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ด้วย ช่วยประหยัดค่าไฟได้ดีกว่าแอร์ที่ไม่มีฉลากเลย หากอยากได้ประหยัดกว่าเบอร์ 5 ก็ต้องเป็นแอร์อินเวอร์เตอร์ INVERTER เป็นระบบที่ผลิตมาช่วยให้คุณได้ประหยัดไฟมากขึ้นสูงสุดถึง 30-40% และยังทำให้ยืดอายุการใช้งานอีกด้วย (อ่านเพิ่มเติมที่บทความ : แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์(INVERTER) คืออะไร?)

 

คอมเพรสเซอร์เริ่มผุพัง

          5.ชิ้นส่วนคอยล์ร้อนเริ่มผุพัง ฟังดูอาจน่ากลัว แต่เป็นการสังเกตดูว่าแอร์นั้นถูกใช้งานมานานแล้วหรือยัง มีโอกาสเป็นไปได้ว่าคอมเพรสเซอร์หรือแผงคอยล์ร้อนจะมีการผุพังหรือผุกร่อนเพราะต้องเจอทั้งแดด ทั้งฝน และอากาศที่เป็นพิษต่อชิ้นส่วนอุปกรณ์ ทำให้แอร์ของเราเสื่อมสภาพลงได้ เมื่อมีสัญญาณว่าคุณอาจต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนหลักในคอยล์ร้อน นั่นจะเป็นเหตุที่สำควรเปลี่ยนแอร์มากกว่าซ่อม โดยที่หากกลัวว่าแอร์ใหม่จะผุเหมือนแอร์เก่าแล้วล่ะก็ มีโอกาสแน่นอนสำหรับแอร์เก่าๆ เราแนะนำให้เลือกแอร์ที่มีการเคลือบสารบลูฟินที่แผงคอยล์ร้อน สารตัวนี้จะช่วยป้องกันการกัดกร่อนของกรดจากฝนหรือสารพิษจากอากาศได้ ทำให้ช่วยยืดอายุการใช้งานแอร์ได้มากกว่าแอร์ที่ไม่ได้เคลือบอะไรเลย

 

           หลังจากได้อ่านอาการของแอร์ต่างๆ แล้ว คุณก็สามารถประเมินได้แล้วว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องเปลี่ยนเป็นแอร์ใหม่ วิธีดูไม่ยากเลย สำหรับบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ สามารถเข้ามาอ่านกันได้ที่ บทความแอร์ เราจะอัพเดตความรู้เรื่องแอร์เรื่อยๆ ติดตามกันนะคะ


 (บทความนี้เน็ตเวิร์กแอร์เป็นผู้เขียน ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความที่อยู่บนเว็บไซต์นี้ไปวางไว้ที่อื่นค่ะ)

บทความ By Admin@NetworkCooling

รวมบทความแอร์

Visitors: 806,531